5 สูตรเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมในการผลิต OEM ปี 2025

Last updated: 10 มิ.ย. 2568  |  45 จำนวนผู้เข้าชม  | 

5 สูตรเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมในการผลิต OEM ปี 2025

อัปเดต 5 สูตรเครื่องสำอางยอดฮิตสำหรับการผลิตแบบ OEM ปี 2025 ที่เจ้าของแบรนด์นิยมใช้ ตอบโจทย์เทรนด์ความงามและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

ในปี 2025 อุตสาหกรรมเครื่องสำอางยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจรับผลิตเครื่องสำอาง (OEM) ที่ตอบโจทย์แบรนด์ต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองโดยไม่ต้องมีโรงงานผลิต ด้วยแนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับส่วนผสมที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ทำให้โรงงาน OEM ต้องปรับตัวและพัฒนาสูตรที่ตรงตามความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สูตรเครื่องสำอางยอดนิยมในการผลิต OEM ปี 2025 ซึ่งครองใจทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค


สูตรเวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skincare)

ปี 2025 ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศ มลภาวะ และการแพ้สารเคมีในเครื่องสำอางทั่วไป สูตรเวชสำอางที่พัฒนาสำหรับผิวแพ้ง่ายจึงเป็นที่ต้องการสูง ส่วนผสมที่นิยมใช้ เช่น Cica (ใบบัวบก), Allantoin, Beta-Glucan และสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน


โรงงานรับผลิตเครื่องสำอางหลายแห่งเริ่มมีมาตรฐานการผลิตแบบ dermatologically tested และ hypoallergenic เพื่อรองรับตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการจับกลุ่มลูกค้าผิวบอบบาง หรือผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย


สูตรไวต์เทนนิงและลดเลือนจุดด่างดำแบบปลอดภัย (Brightening & Spot Corrector)

แม้แนวโน้มของความงามจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่สูตรบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคเอเชีย โดยเฉพาะสูตรที่ใช้สารสกัดจากธรรมชาติแทนสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น Niacinamide, Alpha Arbutin, Vitamin C, Licorice Extract และ Tranexamic Acid
โรงงานที่รับผลิตเครื่องสำอางในปี 2025 มักพัฒนาสูตรไวต์เทนนิงควบคู่กับการให้ความชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันผิว เพื่อให้ปลอดภัยและสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ซึ่งตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการผลิตซีรัม ครีม หรือโลชั่นที่เน้นเรื่องผิวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยน


สูตรกันแดด Hybrid Sunscreen ที่ไม่เหนอะหนะ (Lightweight Hybrid Sunscreen)

ผลิตภัณฑ์กันแดดยังคงเป็นสินค้าหลักที่หลายแบรนด์ต้องการพัฒนา โดยสูตรที่ได้รับความนิยมในปี 2025 คือ Hybrid Sunscreen ที่รวมข้อดีของ Physical และ Chemical Sunscreen เข้าด้วยกัน โดยไม่ทิ้งคราบขาว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่อุดตันรูขุมขน

นอกจากนี้ยังเน้นสารกันแดดที่เป็นมิตรต่อแนวปะการัง (reef-safe) เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide แบบเคลือบผิว เพื่อลดการสะสมบนผิวหนังและลดผลข้างเคียง ในขณะเดียวกันยังเสริมด้วยส่วนผสมบำรุง เช่น ว่านหางจระเข้ วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์

โรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีเทคโนโลยีในการทำอนุภาคขนาดเล็กหรือ Nano Dispersion จึงเป็นที่ต้องการสูงในกลุ่มแบรนด์กันแดดปีนี้

สูตร Anti-Aging จากสารออกฤทธิ์ชีวภาพ (Bioactive Anti-Aging)

เทรนด์ผู้บริโภคที่อายุ 30 ปีขึ้นไปเริ่มหันมาใส่ใจการดูแลผิวอย่างลึกซึ้ง สูตรลดเลือนริ้วรอยจึงยังคงครองใจตลาด โดยเฉพาะสูตรที่ใช้สารออกฤทธิ์ชีวภาพ (Bioactive) ที่มีงานวิจัยรองรับ เช่น Peptides, Retinal, Bakuchiol, Ceramide และ Stem Cell จากพืช


ในปี 2025 ความต้องการสูตรที่สามารถฟื้นฟูผิวจากระดับเซลล์ผิว และเสริมคอลลาเจนอย่างเห็นผลโดยไม่ทำให้ผิวบางหรือระคายเคือง เป็นที่นิยมอย่างมาก ซึ่งเหมาะกับแบรนด์ที่เน้นแนวทางดูแลผิวแบบองค์รวม (Holistic Skincare)


ผู้ที่สนใจลงทุนแบรนด์แนว anti-aging สามารถเลือกใช้บริการจากโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่เชี่ยวชาญด้านสารชีวภาพ และมีทีมวิจัยพัฒนาสูตรร่วมกับแพทย์หรือเภสัชกร

สูตรคลีนบิวตี้และวีแกน 100% (Clean & Vegan Beauty)

กระแสความใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สูตรคลีนบิวตี้และวีแกนเป็นที่นิยมในปี 2025 อย่างมาก สูตรประเภทนี้จะปราศจากพาราเบน ซิลิโคน น้ำมันแร่ SLS/SLES และไม่มีการทดลองในสัตว์ โดยใช้สารสกัดพืชที่มีคุณภาพสูงจากธรรมชาติและออร์แกนิกแท้

โรงงานที่รับผลิตเครื่องสำอางหลายแห่งจึงเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง Vegan Society หรือ Ecocert เพื่อเจาะตลาดในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งผิวพรรณและผลกระทบต่อโลกใบนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ใหม่ที่ต้องการสร้างจุดขายด้วยแนวคิด Green Beauty

ปี 2025 คือปีแห่งความหลากหลายและเฉพาะทางของสูตรเครื่องสำอาง

การรับผลิตเครื่องสำอาง ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งสูตรพื้นฐานและใส่กลิ่นหอมอีกต่อไป แต่คือการเข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคเชิงลึก การเลือกสูตรที่เหมาะสมจึงควรอิงจากพฤติกรรมตลาด ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และแนวโน้มของโลกในด้านสุขภาพ ความงาม และความยั่งยืน

หากคุณคือเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปี 2025 การทำงานร่วมกับโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม พัฒนาสูตรเฉพาะ และรองรับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดไทยและตลาดต่างประเทศอย่างมั่นใจ

AK Healthy Pro เรายินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับ สร้างแบรนด์ครีม ลงทุนเท่าไหร่ หรือขอความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์อาหารเสริม ลงทุนเท่าไหร่ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ เลือก AK Healthy Pro ยินดีให้คำแนะนำ พร้อมให้คำปรึกษาบริการรับผลิตเครื่องสำอาง ผลิตครีมแบรนด์ตัวเอง และสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง และครีม โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บริการรับผลิต OEM อาหารเสริม ผลิตกาแฟ ผลิตกาแฟเพื่อสุขภาพ ผลิตกาแฟแบรนด์ตัวเอง รับผลิตอาหารเสริมดีท็อกซ์ รับผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก รับผลิตโปรตีน รับผลิตเวย์โปรตีน ผลิตคอลลาเจน ผลิตอาหารเสริมไฟเบอร์ และผลิตอาหารเสริมอื่น ๆ อีกครบวงจร โรงงานรับผลิตอาหารเสริมของเราสามารถผลิตอาหารเสริมได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งบริการรับผลิตผงชงดื่ม เม็ดอม เม็ดเคี้ยว ซอฟต์เจล ผงกรอกปาก เยลลี่ แคปซูล กัมมี่ และอาหารเสริมรูปแบบต่าง ๆ


โรงงานรับผลิตอาหารเสริมสร้างแบรนด์ AK Healthy Pro สร้างแบรนด์ธุรกิจรับผลิตอาหารเสริม และธุรกิจรับผลิตเครื่องสำอางอย่างมืออาชีพ เพื่อความสำเร็จที่ก้าวกระโดด รับคำปรึกษากับโรงงานผลิตเครื่องสำอาง โรงงานผลิตครีม เพื่อพูดคุยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ว่าควรจะเริ่มผลิตครีมแบรนด์ตัวเองอย่างไรให้สำเร็จ ด้วยสารสกัดคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลก 

บริษัท เอเค เฮลท์ตี้ โปร จำกัด
โรงงานผลิตอาหารเสริม โรงงานผลิตเครื่องสำอาง โรงงานผลิตครีมที่ดีที่สุด
รับผลิต OEM อาหารเสริม และเครื่องสำอาง บริการวิจัย-พัฒนา-วิเคราะห์สูตรอาหารเสริมครบวงจร
โทร. 02-101-4561, 091-792-1114, 083-412-1115
อีเมล:
akhealthypro99@gmail.com
  

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้